top of page
รูปภาพนักเขียนPsych by side

คลายปมเครียด (Unwinding Anxiety)

อัปเดตเมื่อ 18 พ.ค. 2566


วันนี้ Psych By Side ขอนำเสนอ “หนังสือเพื่อนใจ” สัปดาห์ละเล่มเผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ติดตามเพจของเราค่ะ..


ขอประเดิมด้วยหนังสือชื่อ Unwinding Anxiety โดย J. Brewer


ที่ผู้เขียนขอแปลชื่อหนังสือนี้ว่า “คลายปมเครียด” แปลกันเองไม่ตรงกับชื่อเดิมนักแต่อาจเข้าใจง่ายกว่านะคะ


สาระสำคัญน่าสนใจจากหนังสือเล่มนี้คือ


คนเราเครียดอัตโนมัติ

คนเราเครียดแบบออโตโมติคได้ค่ะ ฟังดูเหมือนคนชอบทำร้ายตัวเองยังไงไม่รู้ คุณหมอ J. Brewer กล่าวว่ากว่า 50% ของพฤติกรรมรายวันเราเป็นพฤติกรรม “อัตโนมัติ” ทั้งนั้นค่ะ อย่างแปรงฟัน จับช้อนส้อมกินข้าว บิดลูกบิดประตู แม้แต่ขับรถ.. สมองเราจำทั้งอารมณ์และกล้ามเนื้อที่ใช้ในแต่ละพฤติกรรมหรือสถานการณ์เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมดเมื่อตื่นมาตอนเช้า..


ด้านหนึ่งก็ดีนะคะ สมองที่ช่วยจำพฤติกรรมซ้ำๆรายวันที่ช่วยให้เราทำอะไรซ้ำๆแบบนั้นได้ง่ายดาย นึกดูว่าถ้าต้องมาเรียนรู้วิธีจับช้อนส้อมหรือลูกบิดประตูหรือการขับรถใหม่ทุกเช้าคงยุ่งน่าดูค่ะ


แต่สมองเราก็มีข้อเสียคือจดจำพฤติกรรมซ้ำซากด้านลบได้เช่นกัน อารมณ์เครียดหรือซึมเศร้าก็เข้าข่าย เครียดบ่อยๆจนสมองเราจำได้ว่ายามนั้นกล้ามเนื้อหน้ามันง้ำ คิ้วผูกโบว์ยังไง หรือยามนั้นอารมณ์หงุดหงิด ไม่สบายใจเป็นทุกข์แบบไหน..


คำว่า “เครียดจนชิน” เลยชักเข้าใจได้ค่ะ เช่น ตกเย็นตกค่ำถึงบ้านก็นั่งซึมๆทอดอารมณ์ปล่อยตัวให้อยู่ในการคิดมากเรื่องเดิมๆ.. เศร้าซะชิน..

ซึ่งพฤติกรรมนี้ไม่ใช่แค่ทำให้เราเครียดอย่างเดียวนะคะ แต่ทำให้เราชินกับการจมอยู่ในความเครียดด้วยค่ะ..

น่าคิดแล้วก็น่ากังวลสุดๆเลยค่ะ เรา “จมอยู่กับความเครียด” แค่เพราะส่วนหนึ่งคือสมองส่วนของ “ความเคยชิน” เล่นงานเราเอง..



เราจะรับมือกับความเครียดหรือความวิตกกังวลอัตโนมัตินี้ได้อย่างไร?


คุณหมอ J. Brewer ได้แนะนำในหนังสือว่าเราสามารถจัดการได้โดย


1) การใช้สติรู้ทันความเครียดหรือความ “เคยชินที่จะเครียด” คือจุดเริ่มต้น ที่พูดนี่ไม่ใช่ให่พากันไปนั่งสมาธินะ หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่การพากันไปนั่งสมาธิเพื่อหลุดพ้นค่ะ.. แต่คุณหมอหมายถึงการสงบจิตสงบใจด้วยวิธีการที่แต่ละคนถนัด.. เพื่อสังเกตอารมณ์ตนเอง และเริ่มมองตัวเองแบบ “คนนอก” ว่าแกนี่..อย่างนี้นี่เองที่แกเครียด..


รู้ทันแล้วก็นั่งมองมันไปเหมือนมองใครสักคนที่เครียดซ้ำซากอย่างสงสารเห็นใจ อย่าโทษตัวเอง อย่าโทษใคร แค่รู้ทันและเมตตาตนเองบ้าง..


การมีสติรู้เท่าทันนี่แหละค่ะคือจุดเริ่มต้นที่เราจะเอาชนะระบบ “ออโต้” ของสมองเราที่บางครั้งทำให้เรา “เครียดจนชิน” อย่างที่กล่าวไปข้างต้น..


ใช้สติรู้ทันความเครียดหรือความ “เคยชินที่จะเครียด”

2) การสร้าง “อารมณ์ทางเลือก” คือคำตอบ ถัดจากการตั้งสติรู้ทันความรู้สึกเครียดของเราเอง ก็คือการ enjoy การู้ทันตัวเองนั่นแหละค่ะ และการมีอารมณ์ดีหรืออารมณ์สุขกับการู้เท่าทันนั้น..คงเหมือนเราสนุกกับการรู้ทันเด็กซนๆสักคนที่ชอบหาเรื่องใส่ตัว ก็คือรู้ทันตัวเองที่ชอบเครียดซะชิน


“อารมณ์ทางเลือก” นี่สำคัญมากค่ะ มันเหมือนการให้รางวัลตัวเองด้วยอารมณ์ใหม่ที่รู้เท่าทัน และพอใจที่จะไปต่อกับอารมณ์นั้น.. จากทีละก้าวทีละชั่วขณะ ไปจนทีละวัน ทีละสัปดาห์ ทีละเดือนปี..


จนสมองเราชักจะชินกับอารมณ์ใหม่นี่เหมือนกัน จาก “เครียดจนชิน” มาเป็น “ชิวจนชิน” ก็ดีเหมือนกันนะ..


สร้าง “อารมณ์ทางเลือก”


ลองดูนะคะ ทีละลมหายใจทีละขณะ จนเราชินกับการรู้ทันตนเองและ “อารมณ์ทางเลือก” ที่มาทดแทน..



ขอบคุณอาจารย์ J. Brewer จาก Brown University ผู้เขียนที่ขอสรุปย่อหนังสือของอาจารย์มาเล่าสู่กันฟัง..


Psych By Side








Comentarios


bottom of page